ทำอย่างไรเมื่อ..ผิว (เริ่ม) เครียด

หลาย ๆ คนอาจสงสัยเมื่อได้ยินคำว่า “ผิวเครียด” ซึ่งต้นตอสาเหตุ จริง ๆ มาจากตัวเรานี่เอง อาการผิวเครียดนี้ จะถูกกระตุ้นโดยความ “เหนื่อยกาย” และ “เหนื่อยใจ” จนก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาโรคต่าง ๆ ตามมาสารพัด

 


หลาย ๆ คนอาจสงสัยเมื่อได้ยินคำว่า "ผิวเครียด" ซึ่งต้นตอสาเหตุ จริง ๆ มาจากตัวเรานี่เอง

หลาย ๆ คนอาจสงสัยเมื่อได้ยินคำว่า "ผิวเครียด" ซึ่งต้นตอสาเหตุ จริง ๆ มาจากตัวเรานี่เอง

 

อันดับแรกที่นึกถึงคือโรคเริม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายพักผ่อนน้อย นอนดึกทำให้มีความเหนื่อยล้าหรือเครียด มากกว่าปกติจึงเกิดเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ขึ้นตามร่างกายส่วนมากจะเกิดขึ้นรอบ ๆ ริมฝีปากและรอบอวัยวะเพศให้ปวดแสบปวดร้อน เริมจึงเป็นโรคในลักษณะเดียวกับโรคเครียดลงผิวนั่นเอง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังให้คำแนะนำและวิธีการแก้ไข อาการผิวเครียดดังนี้

 

สาเหตุของโรคเครียดทำร้ายผิวเป็นอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้น เหนื่อยและเครียดจนเกินระดับปกติแล้ว ทำให้มีอาการแสดงออกมาทางผิวหนัง เป็นผื่นแดงและคัน หากผู้ป่วยเผลอไปเกาจนผิวหนังเป็นแผลกลายเป็นแผล เปิดประตูรับเชื้อโรคต่าง ๆ ให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดอันตรายจากการติดเชื้อตามมา

 

สังเกตอาการเมื่อผิวเริ่มเครียด : ผิว จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง เป็นขุยที่หน้าตา หัวคิ้ว ข้างจมูก หลังหู ไรผม ซึ่งเรียกว่า “เซ็บเดิร์ม” และเกิดผื่นคล้ายลมพิษขึ้นตอนเย็นหลังเลิกงาน หลังออกกำลังกาย หรือช่วงมีระดู มีผื่นตามตัว มักขึ้นในช่วงนอนดึก เครียดจัด จะเป็นแล้วก็หายไปได้เอง แต่สักระยะ ก็เป็นใหม่อีก

 

การรักษาอาการผิวเครียด : สิ่ง สำคัญที่สุดคืออย่าทำงานอย่างหักโหมและพยายามกำจัดความเครียดให้หมดไป รู้จักการพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่าให้ร่างกายเหนื่อยเกินไป ควรทำจิตใจให้แจ่มใสเสมอ ด้วยการฝึกสมาธิ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อขับไล่ความเครียด และทำให้ร่างกายได้หลั่งสารความสุข ที่เรียกว่า เอ็นโดฟิน ซึ่งสารนี้มีฤทธิ์คลายปวดทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย

 

อย่างไรก็ตาม ควรดื่มน้ำสะอาดเพื่อให้ร่างกายสดชื่น บำรุงร่างกายด้วยการกินวิตามินซี สังกะสี น้ำมันปลา กินอาหารที่มีธาตุร่าเริงเช่นข้าวโพดเหลือง ปลาสด และ มะเขือเทศ

 

นอกจากนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุง ผิวที่ดี ซึ่งในปัจจุบัน เวชสำอางถือว่าเป็น Today Generation ของวงการเครื่องสำอางในปัจจุบัน และมีประสิทธิภาพสูงในปริมาณที่มากกว่าเครื่องสำอางทั่วไป ด้วยคุณสมบัติเฉพาะของเวชสำอาง ที่มีเนื้อบางเบา ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และสารปรุงแต่ง จึงมีความอ่อนโยนต่อผิวพรรณ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง และทำให้รู้สึกสบายผิว พร้อมทั้งช่วยในการปรับสภาพผิวได้ดีอีกด้วย

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน  โดย รัชนก อมรรักษากุล

Advertisement

No comments yet... Be the first to leave a reply!

Leave a Comment

 

— required *

— required *