เครื่องสำอางค์ (Cosmetic)
เครื่องสำอางค์ (Cosmetic)
ทุก วันนี้เครื่องสำอางค์ (Cosmetic) กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้แล้วในชีวิตประจำวันของผู้หญิงส่วนใหญ่ เพราะคนเราทุกคนย่อมต้องการที่จะดูดีอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้แต่ผู้ชายเองก็ยังเริ่มมีการใช้เครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลายมาก ขึ้น สังเกตได้จากการโฆษณาสมัยนี้มีการเผยแพร่เครื่องสำอางผู้ชายมากขึ้น เครื่องสำอางทำให้คนดูดีขึ้น การเลือกซื้อเลือกใช้เครื่องสำอางก็ควรดูฉลากวันหมดอายุ มาตรฐานการผลิตให้ดีก่อน
เครื่องสำอางที่ดี คนนิยมใช้กันมากนั้นมีหลายชนิดได้แก่ เครื่องสำอางบำรุงผิวหน้าธรรมดา เครื่องสำอางลดริ้วรอยแห่งวัย เครื่องสำอางลบรอยแผลเป็น เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวขาวนวล เครื่องสำอางสีสันสำหรับแต่งหน้าหรือปกปิดริ้วรอยต่างๆ และเครื่องสำอางป้องกันแสงแดด
เครื่อง สำอางบำรุงผิวธรรมดาหรือเครื่องสำอางที่มีขายส่วนมากนั้น มักจะเป็นพวกครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ป้องกันผิวแห้ง เช่นโลชั่นทาผิวสำหรับเด็ก ครีมทาผิวเพื่อให้ผิวนุ่มเนียน ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ครีมหลายชนิดมักจะเติมสารสกัดพิเศษต่างๆเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการบำรุงผิว เช่น สารสกัดจากพืชธรรมชาติ เป็นต้น บางชนิดก็ให้กลิ่นหอมสบาย ใช้แทนน้ำหอมได้เลย
เครื่องสำอางลดริ้วรอยแห่ง วัย ปัจจุบันเครื่องสำอางชนิดนี้มีการคิดค้นสูตรออกมามากมายเพราะคนเราส่วนใหญ่ ไม่อยากมีริ้วรอยแห่งวัยนั่นเอง ราคาก็สูงขึ้นไปด้วย ทางที่ดีการเลือกเครื่องสำอางนั้นควรดูที่ส่วนประกอบที่พิสูจน์แล้วว่ามี ประสิทธิภาพจริงและซึมซาบเข้าสู่ผิวและลดเลือนริ้วรอยได้จริง
เครื่อง สำอางประเภทลดริ้วรอยแผลเป็น อันนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหารอยแผลเป็น แต่เครื่องสำอางชนิดนี้ก็มีหลักการเลือกซื้อเช่นเดียวกับเครื่องสำอางลดริ้ว รอบแห่งวัยเช่นกัน
เครื่อง สำอางประเภทที่ทำให้ผิวขาวนวล เครื่องสำอางชนิดนี้เป็นที่นิยมกันแพร่หลายทุกเพศทุกวัย จากค่านิยมที่คนสมัยนี้ที่ต้องการมีผิวที่ขาวนวล แต่เครื่องสำอางชนิดนี้มักมีสารเคมีเร่งกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิว ทำให้เกิดผิวบางลงและแพ้ง่ายได้ อีกอย่างเครื่องสำอางชนิดนี้มักมีส่วนประกอบของสารที่เป็นอันตราย จึงควรระมัดระวังในการเลือกซื้อ
เครื่อง สำอางสีสันเพื่อตกแต่งใบหน้าและอำพรางริ้วรอยต่างๆ เครื่องสำอางชนิดนี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกันสำหรับสาวๆที่ต้องออกไปทำงานนอก บ้าน และต้องการดูดีเสมอ ปกปิดริ้วรอยที่บกพร่องของผิวหนัง ทำให้สาวๆสวยและมีความมั่นใจมากขึ้น
เครื่อง สำอางป้องกันแสงแดด เป็นเครื่องสำอางที่คนส่วนใหญ่มองข้ามเพราะส่วนประกอบมักจะเหนียวเหนอะหนะ ผิว แต่เครื่องสำอางชนิดนี้มีความจำเป็นเพราะแสงแดดที่กระทบผิวหน้าของเราอาจ ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าต่างๆตามมาได้เช่น ฝ้า กระ รอยเหี่ยวย่นก่อนวัย และ มะเร็งผิวหนังตามมาได้ ซึ่งป้องกันด้วยครีมกันแดดไว้ก่อนดีกว่าที่จะต้องมารักษาทีหลัง เพราะการรักษาปัญหาเหล่านี้ทำได้ยากมาก
ประวัติเครื่องสำอาง
การใช้เครื่องสำอางจัดเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่มีมาแต่สมัยโบราณ มีการค้นพบว่า มีการใช้เครื่องสำอางมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ จีน อินเดีย และต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยชาวกรีกเป็นชาติ แรกที่มีการแยกการแพทย์และเครื่องสำอางออกจากกิจการทางศาสนา และยังถือว่าการใช้เครื่องสำอางเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติต่อร่างกายให้ ถูกต้องสม่ำเสมอจนเป็นกิจวัตรประจำวัน
ศิลปะการใช้เครื่องสำอางและเครื่องหอมได้ถึงขีดสุดในระหว่าง 2 ศตวรรษแรกแห่งจักรวรรดิโรมัน แล้วค่อยๆ เสื่อมลง และเมื่อจักรวรรดิโรมันตะวันตกล่มสลายลงในคริสต์ศตวรรษที่ 5 ศิลปะการใช้เครื่องสำอางจึงแพร่หลายเข้าสู่ทวีปยุโรป นอกจากนี้ ชาวอาหรับก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในการผลิตเครื่อง สำอาง โดยได้มีการดัดแปลง แก้ไขส่วนผสมต่างๆ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีคุณภาพดีขึ้น เช่น การใช้กรรมวิธีการกลั่นเพื่อให้มีความบริสุทธิ์สูง การใช้แอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลาย เป็นต้น
เมื่อศิลปะการใช้เครื่องสำอางได้แพร่หลายเข้าสู่ในประเทศฝรั่งเศสมาก ขึ้น เจ้าหน้าที่ชาวฝรั่งเศสได้พยายามเสนอให้มีการแยกกิจการด้านเครื่องสำอางไว้ เฉพาะ โดยให้แยกออกจากกิจการด้านการแพทย์ เนื่องจากกิจการด้านการแพทย์และเครื่องสำอางต้องอยู่ในการควบคุมของกฎหมายใน ระหว่างปี ค.ศ. 1400 – 1500 และความพยายามก็ประสบความสำเร็จในปี ค.ศ. 1600 ศิลปะการใช้เครื่องสำอางได้แยกออกมาจากกิจการด้านการแพทย์อย่างชัดเจน ต่อมาในปี ค.ศ. 1800 ได้มีการรวบรวมและแยกแยะความรู้ในด้านศิลปะการใช้เครื่องสำอางออกเป็นหลายๆ ประเภท เช่น เภสัชกร ช่างเสริมสวย นักเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งต้องใช้ความรู้ที่ได้มาจากเภสัชกรรมและครื่องสำอางมาประยุกต์ใช้ให้ เหมาะสมกับแต่ละอาชีพ
การผลิตเครื่องสำอางในช่วงแรกๆ นั้น ยังมีกรรมวิธีการผลิตที่ไม่แน่นอน เครื่องสำอางบางประเภทมีขายในร้านขายยา การผลิตเป็นความรู้ส่วนบุคคลที่ได้รับสืบทอดมาหรือได้จากการศึกษาค้นคว้า ลองผิดลองถูก จนถึงปลายศตวรรษที่ 19 ได้มีผู้นำวิธีการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้ามาช่วยในการผลิตแทนวิธีเก่า และเมื่อผลิตเครื่องสำอางแต่ละชนิดจะมีเครื่องหมายการค้าชัดเจน และมีกรรมวิธีในการผลิตที่แน่นอน ทำให้เครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นมีคุณภาพ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ผลิต ทำให้มีการเพิ่มการผลิต และพยายามปรับปรุงคุณภาพของเครื่องสำอางให้มีคุณภาพสูงขึ้น
ต่อมาได้มีการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ เข้ามาปรับปรุงคุณภาพของเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเคมี ได้มีส่วนเข้ามาช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้มี คุณภาพสูง ในการผลิตแต่ละครั้งต้องมีส่วนประกอบที่คงที่ ได้ผลิตภัณฑ์อย่างเดียวกัน มีหลักการเลือกใช้วัตถุดิบที่ได้มาตรฐานในการผลิต และมีการตรวจสอบคุณสมบัติ ตลอดจนการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
ในปี ค.ศ. 1895 ได้มีการเปิดสอนวิชาการเครื่องสำอาง ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นครั้งแรก ทำให้นักศึกษาได้รู้จักวิธีการใช้เครื่องสำอางชนิดต่างๆ ในการรักษาผิวหนังและเส้นผม ต่อมาการศึกษาวิชานี้ได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว
No comments yet... Be the first to leave a reply!