น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ผสมสารสกัดจากมะเขือเทศ (ไลโครปีน) คุณสมบัติของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวผสมสารสกัดจากมะเขือเทศ (Rice Bran and Germ Oil Extract Lycopene) ไลโคปีน (Lycopene) คือ แคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของสีแดงของมะเขือเทศ และแตงโม ที่มีโครงสร้างโมเลกุล ที่ยาวกว่าแคโรทีนอยด์ชนิดอื่น ๆ ทำให้ ไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งจะช่วยลด ความผิดปกติ และความเสื่อมของเซลล์อันเนื่องมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า ปริมาณไลโคปีนในร่างกายจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น และพบว่าปริมาณสารไลโคปีน ในร่างกาย มีความสัมพันธ์แบบผกผันกับอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ผู้ป่วยที่มีปริมาณสารไลโคปีนในร่างกายต่ำ จะมีความเสี่ยงต่อ โรคมะเร็ง ต่อมลูกหมากเพิ่มขี้น ในจมูกข้าวและน้ำมันรำข้าว (สกัดเย็น) ประกอบด้วย 1. สารแกมม่า-ออไรซานอล (Gamma-Oryzanol) ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) ในเส้นเลือด 2. ทำให้ลดการตีบตันของหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตและยังมีฤทธิ์ในการลดความเครียด ทำให้อวัยวะสำคัญต่าง ๆ เช่น ตับ, ไต, หัวใจ, สมอง, ตับอ่อน [...]
ออริซานอล โฟตี้เอท พี คิวเท็น Oryzanol 48 P & Q10
ออริซานอล โฟตี้เอท พี คิวเท็น Oryzanol 48 P & Q10 คือ น้ำมันรำข้าวผสมโคคิวเท็น การนำสองสิ่งที่มีประโยชน์มากๆ มารวมในเม็ดเดียวกัน มีสารต้านอนุมูลอิสระ (สารต้านความเสื่อม) ที่ดี 2 ชนิด มารวมอยู่ด้วยกัน ใน 1 เม็ด มีแกมม่า ออริซานอลมากกว่า 6 เท่า ผลิตภัณฑ์ PG&P พีจีแอนด์พี เพรสซิเด็นท์ เกรน พรอดักท์ ออริซานอล โฟตี้เอท(48) พี คิวเท็น น้ำมันจมูกข้าวผสมคิวเท็น น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว เป็นส่วนที่ได้จากการนำเอาเยื่อหุ้มเมล็ดข้าวและจมูกข้าวมาผ่านกระบวนการและ ขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งน้ำมันรำข้าวดิบ โดยผ่านขั้นตอนสำคัญในการสกัดเฮกเซน ซึ่งเป็นตัวทำละลายออกจากน้ำมันดิบ จึงทำให้น้ำมันรำข้าวไม่เลี่ยนเมื่อรับประทาน ก่อนที่จะนำมาบรรจุเป็นแคปซูลเพื่อการบริโภคในลักษณะของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยทั่วไปแนะนำให้บริโภคกรดไขมันอิ่มตัว(Satureted Fatty Acid) ไม่เกิน 10% ของพลังงานทั้งหมด น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าวมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัวไม่เกิน 10% [...]
ดื่มน้ำอย่างไรให้ร่างกาย “พอ”
เมื่อเอ่ยถึงการดื่มน้ำ มนุษย์ยุคใหม่หลายคนโตมากับปัญหาดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่วนเหตุของปัญหาหนีไม่พ้นความรู้สึกว่าน้ำนั้นขาดรสชาติ พาให้จืดชืด ไม่น่าสนใจเอาเสียเลย จนบางคนหันไปเอาดีทางกาแฟ (และน้ำอัดลม) แทน เสียแต่ว่ากาแฟและน้ำอัดลมนั้นดื่มได้นิดเดียวก็รู้สึกว่าพอแล้ว เพราะมันมีทั้งคาเฟอีน น้ำตาล นม ครีมผสมอยู่ด้วย สุดท้าย ผลก็กลายเป็นว่าร่างกายก็ได้รับน้ำไม่เพียงพออยู่ดีนั่นเอง ข้อเสียของการปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำนั้นมีมากมาย ทั้งทำให้ผิวพรรณแห้ง หมองคล้ำ กระสับกระส่าย ร่างกายเสียสมดุล บางคนอาจมีอาการตัวร้อน เป็นไข้ ร้อนใน ไม่สบายร่วมด้วย หรือหากเกิดกับเด็กวัยเรียนก็อาจทำให้เด็ก ๆ เรียนหนังสือได้ไม่ดีเท่าที่ควร แต่เราก็สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานั้นได้ด้วยการจัดระเบียบชีวิตตัวเองกับ “น้ำ” ดังนี้ 1. ทราบปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการ โดยปกติแล้ว ร่างกายควรได้รับน้ำ 8 แก้วต่อวัน แต่ปริมาณน้ำที่ร่างกายต้องการที่แท้จริงขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายประการ เช่น การใช้ชีวิต การทำงาน หากคุณเป็นคนที่ต้องทำงานกลางแดดตลอดวัน ร่างกายก็คงต้องการน้ำมากกว่าคนที่นั่งแต่ในห้องปรับอากาศเป็นแน่ นอกจากนั้นการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตรก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย ซึ่งหากเข้าข่ายดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความมั่นใจถึงปริมาณน้ำที่เหมาะสมที่ร่างกายควรจะได้รับ จะดีกว่า 2. กำหนดให้เป็นกิจวัตร หากคุณพบว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่หาเวลาดื่มน้ำได้ยากเหลือเกิน หลังพักเที่ยงนั่งทำงานเพลิน ๆ รู้สึกตัวอีกทีก็ห้าโมงเย็นเลิกงานเสียแล้ว [...]
ร่างกายฟิต ตามชนิดของงาน
มีงานทำยังดีกว่าไม่มีงานค่ะ แต่ถ้างานนั้นต้องใช้ขุมพลังของชีวิตมากเกินไปก็ต้องพิจารณาให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจไม่คุ้มต้องมานั่งกลุ้มในภายหลัง อย่างงานที่ต้องนอนผิดเวลา ไม่มีวันหยุด งานที่ต้องเดินทางมากชีพจรลงเท้า ก็ต้องดูกันเป็นอย่างๆ ไป เข้าใจทุกท่านนะคะว่าบางทีมันสุดวิสัยจริงๆ แค่เวลากินยังต้องวิ่งรับประทานเลยแล้วจะหาเวลาออกกำลังกายที่ไหนได้ แต่ถ้าลองใหม่นะคะ ลองคิดว่าให้งานเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยจะพอช่วยได้ไหม ได้ทั้งงานและสำราญสุขภาพ ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้องอีกต่อไป งานได้ผลเลิศ เจ้านายปลื้ม ลูกน้องรัก สุขภาพไม่พังเร็ว อย่างนี้วินวินกันทั้งสองฝ่าย วันนี้เลยอยากฝากเคล็ดวิธีการเลือกชนิดการออกกำลังกายให้เหมาะกับประเภทของงานที่ทำไว้ โดยใช้เนื้องานเป็นตัวกำหนด อาชีพในทุกวันนี้มีหลากหลายมากค่ะ น้องๆ คนรุ่นใหม่มีไฟในการทำงานกันทั้งนั้น แต่ใช่ว่าพี่ผู้อาวุโสจะหมดไฟนะคะ ยังมีไฟอยู่แน่นอนและอาจมีพลังได้เหมือนกับสมัยเมื่อเข้างานใหม่ๆ เสียด้วยถ้าใช้หลักอายุรวัฒน์ช่วย อาจารย์กฤษดา ศิรามพุช แห่งคอลัมน์กายคิดจิตกำหนดเคย บรรยายให้ผู้บริหารฟังเกี่ยวกับหลักนี้โดยละเอียดไปแล้วถึงเทคนิค “ชาร์จแบต” เก็บประจุพลังใหม่ให้เหมือนกับวันแรกของการทำงานได้ ในวันนี้ดิฉันจะพูดในแง่ของการเลือกชนิดของการออกกำลังกาย (Mode of exercise) ให้เหมาะกับตัวเองตามประเภทงานดังนี้ 1) งานนั่งโต๊ะ องค์การ อนามัยโลกประกาศว่าสาเหตุโรคภัยไข้เจ็บประการหนึ่งของมนุษย์ยุคใหม่ก็คือการ นั่งทำงาน การที่ไม่ได้ขยับตัวเป็นส่วนใหญ่ทำให้มีไขมันสะสมอยู่ที่พุงและกล้ามเนื้อก็ หดหายไปค่ะ แล้วอีกไม่นานสารพัดโรคก็มา รูปแบบการออกกำลังกายที่เหมาะในกรณีนี้คือ “สลับช่วง” [...]
คุณประโยชน์ของพริกหวาน
พริกหวาน ช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขั้น พริกหวาน ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Capsicum annuum L. var. longum และมีชื่อสามัญว่า Banana pep per อยู่ในวงศ์ Solanaceae พริกหวานมีรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยมถึงหกเหลี่ยม เนื้อหนามีหลายสีทั้งเขียว แดง เหลืองส้ม มีรสชาติหวานไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดในสลัดหรือนำมาผัดกับผักชนิดต่างๆ เด็กและผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้ ด้วยสีสันที่น่ารับประทานพริกหวานยังอุดมไปด้วยวิตามิน A, B1, B2และ C มีสารแคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจกและโรคมะเร็ง และยังมีเบตาแคโรทีนสูง เหล็ก และโพแทสเซียม ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีไวตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า ในพริกสีเขียว 100 กรัมจะมีไวตามินซี 100 กรัมเช่นกัน สรรพคุณของพริกหวาน ช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหารทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขั้น ช่วยเจริญอาหารบำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลากเกลื้อน และสามารถลดความดันโลหิตได้ [...]
หลัก 10 ประการที่ช่วย ให้มีอายุยืนยาว
วันนี้จะนำเคล็ดลับที่จะทำให้ มีอายุยืนได้ตามความมุ่งหวัง ซึ่งก็ต้องเข้าใจด้วยว่าโดยปกติแล้วคนที่จะมีอายุยืนมักจะต้องมี พันธุกรรม หมายความว่าต้องมีบรรพบุรุษที่เป็นคนอายุยืนด้วย ซึ่งในวันนี้จะขอคัดลอกผลงานศึกษาวิจัยของนาย Thomas Peris แห่งคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยบอสตันสหรัฐอเมริกา ที่ได้มีการแปลไว้ใน www.vcharkarn.com ถึง 10 ลักษณะนิสัยและพฤติกรรมที่จะทำให้คนมีอายุยืนยาวขึ้นมาเผยแพร่ต่อเพื่อประโยชน์สาธารณะ ดังนี้ 1. ไม่เกษียณตัวเอง ทั้งนี้ มีหลักฐานยืนยันจาก Baltimore Longitudinal Study of Aging (Luigi Ferrucci) กล่าวว่ามีหลักฐานยืนยันในหลายสังคมว่า คนที่หยุดทำงานทันที จะมีอัตราการเป็นโรคอ้วนและการเจ็บป่วยเรื้อรังเพิ่มขึ้น ดังนั้น ในบางชุมชนจึงมีการรณรงค์ให้ผู้สูงอายุทำงานเป็นอาสาสมัครในที่ต่าง ๆ เช่น ช่วยสอนในโรงเรียนประถมศึกษา เป็นอาสาสมัครที่พิพิธภัณฑ์ เป็นต้น โดยให้ใช้เวลาประมาณ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2. ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน เพราะ จากการศึกษาวิจัย ของนิวยอร์ก ยูนิเวอร์ซิตี้ ในปี ค.ศ. 2008 พบหลักฐานยืนยันว่า การใช้ไหมขัดฟันช่วยลดปริมาณแบคทีเรียในช่องปากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด อาการอักเสบในช่องปากหรือโรคเหงือกอักเสบนอกจากนี้ ยังมีการศึกษาพบว่า คนที่มีปริมาณแบคทีเรียมากในช่องปากจะมีผนังหลอดเลือดหัวใจที่หนากว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการโรคหัวใจ 3. มีการเคลื่อนไหวร่างกาย นั่นคือ การออกกำลังกายเป็นรากฐานที่สำคัญของการคงอยู่ของความเป็นหนุ่มเป็นสาว [...]
เลิกบุหรี่มีผลกับน้ำหนักตัวจริงหรือ?
วิจัยพบ คนเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ ภายในหนึ่งปีจะได้เห็นความแตกต่างของน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนไป ข้อสงสัยที่ว่า หลังเลิกบุหรี่แล้วน้ำหนักตัวจะลดหรือเพิ่มนั้น ทำให้นักวิจัยของฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรร่วมกันค้นหาคำตอบ ล่าสุด เฮนรี-จีน เออบิน ผู้เชี่ยวชาญบำบัดผู้ติดสารเสพติด แห่งโรงพยาบาล พอล เบราส์ ในฝรั่งเศส ได้เปิดเผยผลวิจัยเรื่องดังกล่าวออกมา ในการทำวิจัยกับ 62กรณีศึกษา ได้มีการตรวจสอบน้ำหนักก่อนเลิกบุหรี่กับน้ำหนักหลังเลิกบุหรี่ไปแล้ว 12เดือน เพื่อดูความผันผวนของน้ำหนักตัวในผู้ที่เลิกบุหรี่ได้สำเร็จและไม่ต้องบำบัด โดยนิโคตินทดแทน พบว่า ส่วนใหญ่คนเลิกสูบบุหรี่มักจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากตอนที่ยังมีพฤติกรรม สูบบุหรี่ โดยน้ำหนักเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 8-11ปอนด์ ภายในปีแรก ทั้งนี้ น้ำหนักตัวจะเพิ่มมากในช่วง 3เดือนแรกหลังเลิกบุหรี่ได้ ความเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัวยังสามารถแยกได้ว่า เดือนแรก น้ำหนักขึ้น 2.5 ปอนด์ ส่วนเดือนต่อมาเพิ่ม 5ปอนด์ สู่เดือนที่สาม 6.5 ปอนด์ กระทั่งเดือนที่หก ได้น้ำหนักเพิ่ม 9ปอนด์ และเมื่อครบปีจะมีเพิ่มราว 10.5ปอนด์ ส่วนผู้ที่เลิกบุหรี่แต่ต้องพึ่งนิโคตินทดแทนเป็นตัวช่วยก็มีน้ำหนักเพิ่ม ขึ้นเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เรื่องน้ำหนักตัวหลังการหยุดสูบบุหรี่ ไม่ใช่มีแต่เพิ่ม ทว่ามีความผันผวนที่หลากหลาย เพราะยังมีผู้ที่เลิกบุหรี่ร้อยละ 16น้ำหนักลดลงหลังเลิกบุหรี่ ส่วนร้อยละ [...]
ใบบัวบก กินดีไม่ต้องรอช้ำใน
ใบบัวบก ไม่ได้มีประโยชน์ให้นึกถึงเฉพาะตอนอกหักรักคุด คนไร้ปัญหาหัวใจกินใบบัวบกได้ประโยชน์หลายอย่าง เรามักได้ยินคำหยอกบอกให้คนอกหักช้ำรักต้องซดน้ำใบบัวบกเพื่อแก้ช้ำใน คงเป็นคำแซวเพื่อแก้เครียด แต่รู้หรือไม่ว่า แท้จริงแล้ว สรรพคุณของใบบัวบกไม่ได้ช่วยเยียวยาความรู้สึกช้ำใจอย่างที่ชอบนำไปพูดกัน ทว่าบัวบก จัดเป็นพืชที่มีวิตามินเอสูง จึงบำรุงสายตาได้ดี นิยมกินส่วนของใบ มีประโยชน์ช่วยแก้ฟกช้ำ ลดการอักเสบ กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ แก้ร้อนใน แก้กระหาย แก้อ่อนเพลีย ทำให้รู้สึกสดชื่น ทั้งยังลดความดันโลหิต และช่วยขับปัสสาวะได้ สำหรับเมนูเพื่อสุขภาพจากใบบัวบก สัปดาห์นี้ชวนทำ “ยำใบบัวบกกุ้งสด” ปรุงกินง่ายไม่ต้องรอให้อกหัก แค่มีใบบัวบก เอาไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วหั่นฝอย หรือจะใช้เต็มใบก็ได้ตามชอบ แล้วต้องมีกุ้งชีแฮ้ปอกเปลือกเด็ดหัวทิ้ง ดึงเส้นดำกลางหลังออก ล้างก่อนลวก โดยลวกแบบพอสุก จากนั้นจึงสับหยาบ อาจนำหมูบดหรือไก่บดลวกสุกมาเป็นส่วนผสมร่วมด้วยก็ได้ ขั้นต่อมา ทำน้ำยำ ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ เคล้าให้น้ำตาลปี๊บละลาย จากนั้นเติมพริกป่น กุ้งสับ หมูหรือไก่บด คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชมให้ได้รสหวานอมเปรี้ยว เมื่อได้ที่แล้วใส่ใบบัวบกคลุกผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว เพียงเท่านี้ก็จะได้คุณค่าจากบัวบกแล้ว ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
เผยเหตุคนเป็นโรคร้าย…อาจมาจากช่องว่างระหว่างเซลล์เยื่อบุลำไส้กว้างเกิน
เมื่อพูดถึงเรื่องของการชะลอความชรา เรามักจะนึกถึงวิธีการที่จะทำอย่างไรให้ผิวพรรณของเรายังดูดีอ่อนกว่าวัย ทำอย่างไรที่จะทำให้หัวใจเราแข็งแรงไม่หยุดเต้น ทำอย่างไรที่จะทำให้สมองของเรายังโลดแล่นไม่หลงลืมง่าย โดยแพทย์น้อยคนที่จะพูดถึงเรื่องสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วระบบทางเดินอาหารมีผลต่อความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของเซลล์สมองของคนเรา จะได้รับอิทธิพลค่อนข้างมากจากการทำงานของระบบทางเดินอาหาร นายแพทย์อรรถสิทธิ์ อมรถนอมโชค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลเวชธานี เผยถึงสุขภาพของระบบทางเดินอาหารที่ดีว่า มีผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีผลต่อความเสื่อมของเซลล์ในร่างกายทำให้เสื่อมช้าลงได้ด้วย เพราะความเป็นจริงแล้วระบบทางเดินอาหารไม่ใช่เพียงแค่ดูดซึมสารอาหารที่เกิดจากการย่อยของอาหารที่เรารับประทานเข้าไปเท่านั้น แต่ระบบทางเดินอาหารยังต้องสัมผัสกับสารต่างๆ ที่ร่างกายเราได้รับเข้าไปจากการรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นยา ฮอร์โมน สารเคมีปนเปื้อนและเชื้อโรคต่างๆ เป็นต้น ช่องว่างระหว่างเซลล์ ช่องทางนำเชื้อโรคเข้าร่างกาย ระบบทางเดินอาหารที่ดีในแบบฉบับของแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัย จะเน้นในส่วนความแข็งแรงของเซลล์เยื่อบุในทางเดินอาหาร โดยเฉพาะเซลล์ที่บุทั้งในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ลักษณะของเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหารจะเรียงตัวชิดกัน โดยมีช่องว่างห่างกับเซลล์ข้างๆ ในขนาดที่เหมาะสมไม่กว้างเกินไป เพราะถ้าช่องว่างระหว่างเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหารดังกล่าวมีขนาดที่กว้างเกินความจำเป็น จะส่งผลทำให้ลำไส้ของเราดูดซึมเอาของที่ไม่มีประโยชน์ หรืออาจจะเป็นโทษต่อร่างกายเข้ามาด้วย เช่น โปรตีนในอาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์ สารเคมีที่ปนมากับอาหารหรือน้ำที่เราดื่มเข้าไป โลหะหนัก ยา และอื่นๆ เป็นต้น ซึ่งสารแปลกปลอมเหล่านี้ เมื่อร่างกายได้รับเข้าไป จะไปกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานมากขึ้น โดยคิดว่าสิ่งนี้คือเชื้อโรคแปลกปลอมที่ต้องขจัดออกไป ถ้ามีการกระตุ้นลักษณะนี้สะสมในร่างกายนานๆ ส่งผลให้ภูมิต้านทานมีมากเกินไปจนอาจไปทำลายเซลล์เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายของเราเสียเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหรือกลุ่มโรคที่เราเรียกว่า “แพ้ภูมิของตนเอง” เช่น โรคภูมิแพ้ เป็นหวัดเรื้อรัง โรคลมพิษเรื้อรัง โรคข้ออักเสบต่างๆ [...]
สถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก
ประเทศเวียดนาม มีรายงานผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปากในปี 2554 จำนวน 32,588 ราย เสียชีวิต 81 ราย (ในปีก่อนๆ มีจำนวนผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก ในเวียดนามประมาณ 10,000-15,000 ราย และเสียชีวิตปีละประมาณ 20-30 รายเท่านั้น) จากเมืองในจังหวัดต่างๆ รวม 52 แห่ง มีรายงานการเสียชีวิตในพื้นที่ 17 แห่ง โดยร้อยละ 96 ของผู้ป่วยเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และเชื้อเอนเทอโรไวรัส 71 (Enterovirus 71) เป็นสาเหตุสำคัญของการระบาด ประเทศมาเลเซีย พบผู้ป่วยโรคมือ เท้า ปาก ในปี 2554 จำนวน 2,919 ราย แต่ไม่พบผู้เสียชีวิต โดยพบว่าลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับในปี 2553 ซี่งพบผู้ป่วยตลอดปีทั้งสิ้น 8,769 ราย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบรายงานผู้ป่วยโรคมือ [...]
เคล็ดลับ สุขภาพดี ด้วย 18 วิธี ง่ายๆ
เคล็ดลับ สุขภาพดี ด้วย 18 วิธี ง่ายๆ สุขภาพดีอาจจะหาซื้อไม่ได้แต่เป็นเจ้าของได้แน่นอน ถ้าสาวๆ ทำตามเคล็ดลับเหล่านี้ 1. แอปเปิ้ล แตงโม กล้วย กีวีต้องระวัง ผล ไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้มีประโยชน์มาก แต่ถ้าคุณกำลังทานยาปฏิชีวนะอยู่ ผลไม้พวกนี้จะกลายเป็นโทษทันทีเพราะมันบูดในลำไส้ได้ง่าย อาจจะทำให้เกิดอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารได้ 2. ผลไม้กับมื้ออาหาร ก่อน ทานอาหารควรจะเรยีกน้ำย่อยด้วยสับปะรดและมะละกอสัก 2-3 ชิ้น ผลไม้สองชนิดนี้มีเอนไซม์ที่จะช่วยให้กระเพาะย่อยอาหารมื้อหลักที่กำลังจะ ตามลงมาได้ง่ายขึ้น และหลังจากจบมื้ออร่อยแล้วควรตบท้ายด้วยแอปเปิ้ลสัก 1 ชิ้นเพื่อช่วยเพิ่มปริมาณน้ำลายซึ่งจะทำให้จำนวนแบคทีเรียในช่องปากลดลง และช่วยให้เหงือกแข็งแรงด้วย 3. อย่าปล่อยให้หิว ควร จะทานอาหารให้ตรงเวลาทุกวันแม้จะยังไม่รู้สึกหิวก็ตาม เพราะเวลาที่เราหิวร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนควมเครียดออกมา ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นประจำก็จะทำให้คุณกลายเป็นสาวเครียด และนำไปสู่อาการความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือเบาหวาน 4. เนื้อสัตว์กับผลไม้ไม่เข้ากัน ถ้า ทานน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามื้อไหนคุณทานเนื้อเป็นจำนวนมากแล้วควรจะงดผลไม้ไป เพราะกว่าเนื้อจะย่อยหมดต้องใช้เวลานาน ส่าวนผลไม้ซึ่งย่อยเร็วจะถูกกักอยู่ในกระเพาะ จึงทำให้เกิดกรดในกระเพาะอาหารได้ [...]
ทำอย่างไรเมื่อ..ผิว (เริ่ม) เครียด
หลาย ๆ คนอาจสงสัยเมื่อได้ยินคำว่า “ผิวเครียด” ซึ่งต้นตอสาเหตุ จริง ๆ มาจากตัวเรานี่เอง อาการผิวเครียดนี้ จะถูกกระตุ้นโดยความ “เหนื่อยกาย” และ “เหนื่อยใจ” จนก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาโรคต่าง ๆ ตามมาสารพัด อันดับแรกที่นึกถึงคือโรคเริม ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายพักผ่อนน้อย นอนดึกทำให้มีความเหนื่อยล้าหรือเครียด มากกว่าปกติจึงเกิดเป็นตุ่มน้ำใส ๆ ขึ้นตามร่างกายส่วนมากจะเกิดขึ้นรอบ ๆ ริมฝีปากและรอบอวัยวะเพศให้ปวดแสบปวดร้อน เริมจึงเป็นโรคในลักษณะเดียวกับโรคเครียดลงผิวนั่นเอง ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังให้คำแนะนำและวิธีการแก้ไข อาการผิวเครียดดังนี้ สาเหตุของโรคเครียดทำร้ายผิวเป็นอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้น เหนื่อยและเครียดจนเกินระดับปกติแล้ว ทำให้มีอาการแสดงออกมาทางผิวหนัง เป็นผื่นแดงและคัน หากผู้ป่วยเผลอไปเกาจนผิวหนังเป็นแผลกลายเป็นแผล เปิดประตูรับเชื้อโรคต่าง ๆ ให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดอันตรายจากการติดเชื้อตามมา สังเกตอาการเมื่อผิวเริ่มเครียด : ผิว จะมีลักษณะเป็นผื่นแดง เป็นขุยที่หน้าตา หัวคิ้ว ข้างจมูก หลังหู ไรผม ซึ่งเรียกว่า “เซ็บเดิร์ม” และเกิดผื่นคล้ายลมพิษขึ้นตอนเย็นหลังเลิกงาน หลังออกกำลังกาย หรือช่วงมีระดู [...]